การรดน้ำอย่างชาญฉลาด

วิธีการรดน้ำอย่างชาญฉลาด

1. เข้าใจการรดน้ำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อพืชที่ปลูกมีสุขภาพดี คือการทำให้ดินสามารถดูดซับน้ำได้ดี และรักษาปริมาณความชื้นไว้ได้นานมากที่สุด ทั้งต้องมีการระบายน้ำที่ดีไม่มีน้ำท่วมขังใต้ดิน และอากาศถ่ายเทได้สะดวก ถึงแม้ว่าดินจะมีแร่ธาตุหรือสารอินทรีย์สำหรับพืชต่ำ แต่เรายังสามารถปรับปรุงให้ดินดีขึ้นได้ด้วยการใส่ปุ๋ยเพิ่มแร่ธาตุหรือสารอินทรีย์ตามความต้องการของพืชแต่ละชนิดให้อย่างเหมาะสม

2. มีความรู้และวิธีการปรับปรุงดินให้เหมาะสมกับการปลูกพืช ชนิดของดินแต่ละชนิด เช่น ดินทราย, ดินร่วน หรือดินเหนียว มีความสามารถในการซึมซับน้ำได้แตกต่างกัน ดังนั้นอัตราการรดน้ำจึงมีความแตกต่างกันตามชนิดของดินแต่ละประเภท และปริมาณน้ำที่ต้องสัมพันธ์กับความต้องการน้ำของพืชแต่ละชนิดอย่างเหมาะสม 

3. การจัดกลุ่มของพืชที่มีความต้องการน้ำเหมือนกัน พืชบางชนิดไม่ต้องการน้ำในปริมาณที่มาก (ภายหลังจากช่วงปีแรกของการเจริญเติบโต) แต่พืชบางชนิดต้องการน้ำในปริมาณสม่ำเสมอตลอดช่วงระยะเวลาที่ปลูก ดังนั้นการจัดกลุ่มของพืชแต่ละชนิดย่อมส่งผลให้ง่ายแก่การให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสมตามชนิดของพืชที่เราปลูก

4. การปลูกพืชท้องถิ่น และความทนทานต่อความแห้งแล้ง เนื่องจากพืชบางชนิดไม่ต้องการให้มีการรดน้ำเลย หรือสามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่แห้งแล้ง ดังนั้นผู้ปลูกจำเป็นต้องมีความรู้ถึงลักษณะเฉพาะของพืชบางชนิดที่จะปลูกและระยะเวลาในการรดน้ำที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชหรือการรดน้ำในปริมาณที่เหมาะสม

5. จำนวนหรือปริมาณพืชที่ปลูกในสนามหญ้าภายในบ้าน โดยทั่วไปสนามหญ้ามีความต้องการน้ำในปริมาณที่มากและต้องการปุ๋ย สารอาหาร หรือสารเคมี การพิจารณาถึงความเหมาะสมของปริมาณสารอาหารที่ให้แก่สนามหญ้าตามปริมาณที่พืชต้องการจริงๆคือปริมาณเท่าใด รวมถึงการตัดสินใจที่จะมีการปลูกพืชทดแทนหรือปลูกพืชแซมลงในพื้นที่สนามหญ้า โดยเลือกพืชท้องถิ่นหรือนำพืชต่างถิ่นมาประยุกต์ใช้หรือไม้พุ่มเพื่อใช้ในการคลุมดิน

6. การเพิ่มเติมพืชคลุมดิน เพื่อให้ดินสามารถรักษาน้ำหรือความชื้นไว้ได้นานมากขึ้น

7. อัตราการถ่ายเทอากาศ และการใช้มุ้งหรือการมุงหลังคาคลุมพื้นที่ปลูกพืช เพื่อให้น้ำที่รดลงไปนั้นไม่เกิดการท่วมชังและช่วยให้การใช้น้ำเกิดประโยชน์แก่พืชมากที่สุด

8. วางแผนการรดน้ำอย่างเป็นระบบ กำหนดปริมาณน้ำและเวลาในการรดน้ำให้เหมาะสมกับพืชที่ปลูก